วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ชาจีน

ประวัติศาสตร์
ชามีบทบาทสำคัญในสังคมและวัฒนธรรมจีนมากว่าห้าพันปี ตามตำนานเล่าว่า ชาได้ถูกค้นพบโดยจักรพรรดิเชินเนิง ในช่วงปี 2737 ก่อนคริสตกาล ซึ่งอยู่ในยุค 5 รัชสมัย ใบไม้ได้ปลิวลงไปในหม้อต้มน้ำ เกิดเป็นกลิ่นหอมรัญจวญของน้ำชาที่ลอยแตะจมูกองค์พระจักรพรรดิจนต้องลองจิบดู พระองค์ได้ทรงประกาศการค้นพบและให้เป็นเครื่องดื่มประจำชาติ ต้นไม้ดังกล่าวปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันในนามต้นคาเมลเลีย ซึ่งเติบโตในป่าของจีน การดื่มชาจีนได้รับการสืบทอดต่อไปอีกหลายศตวรรษ หนังสือเกี่ยวกับชาเล่มแรก ชื่อ Cha Ching (ชาโบราณ) เขียนขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-907) โดยกวีลู่หยู นอกเหนือจากจะรวบรวมข้อมูลในการการปลูกชาและเตรียมชาหลากหลายวิธีแล้ว ยังมีกฎและเทคนิคที่เหมาะสมในการชงชาให้ได้รสเลิศที่สุด นอกจากนี้ ยังถือเป็นครั้งแรกที่มีการกำหนดศิลปะของการดื่มชาไว้
ประเภทของชา
หากแบ่งตามระยะเวลาการบ่มและระดับของการดูแลแล้ว สามารถแบ่งชาออกเป็น 6 ประเภทหลักๆ ได้แก่
ชาเขียว เป็นชาที่ไม่ผ่านการบ่ม ผลิตจากใบชาที่เก็บสดๆ มาอบไอน้ำ และเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมเขียวเมื่อต้ม ให้รสอ่อนละมุน
ชาขาว เป็นชาที่ใช้เวลาบ่มไม่นาน ให้กลิ่นนุ่มนวล หวานเล็กน้อย
ชาดำ เป็นชาที่ผ่านการบ่มเต็มที่ก่อนนำไปอบ มีสีแดงสด เมื่อต้มแล้วให้รสชาติเข้ม และมีสีน้ำตาล
ชาอู่หลง มีต้นกำเนิดจากมณฑลฟูเจี้ยนของจีน ใบชาจะนำไปผ่านกระบวนการอ๊อกซิไดซ์บางส่วน เมื่อต้มแล้วจะให้รสชาติกึ่งชาเขียวและชาดำ มีสีเหลืองสดและออกรสผลไม้
ชาผู่เอ้อ เป็นชาที่ดัดแปลงมาจากชาเขียว ชาอู่หลงและชาดำ ผ่านการหมักบ่มมาอย่างเต็มที่ เมื่อต้มแล้ว จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น