วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552

7สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

เห็นว่าเป็นที่สนใจของใครหลายคน เลยหาข้อมูลมารวม ให้อ่านกันเพลินๆเวบไซต์หลัก http://www.new7wonders.com/
100 ล้านคนทั่วโลกโหวต 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ [8 ก.ค. 50 - 07:49]vzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzvzในเว็บไซต์มูลนิธิที่มีชื่อว่า“สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ 7 อย่าง” อันเป็นมูลนิธิไม่แสวงหากำไร ที่ก่อตั้งโดยนายเบอร์นาร์ด เวเบอร์ ผู้สร้างภาพยนตร์ชาวสวิส ได้ประกาศรายชื่อบรรดาสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ ทั่วโลก วานนี้ (7 ก.ค.) หลังจากที่ริเริ่มรณรงค์ให้ประชาชนทั่วโลก เลือกสิ่งมหัศจรรย์ใหม่ของโลกเมื่อปี 2542 และเปิดให้มีการลงคะแนนทางเว็บไซต์ www.new7wonders.com รวมทั้งการส่งข้อความทางโทรศัพท์เคลื่อนที่
ผลการลงคะแนนจากประชาชนทั่วโลกกว่า 100 ล้านคน ได้เลือก 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ได้แก่ 1.ชิเชน อิตซา อัสเทค ไซต์ แห่งยูคาตาน ประเทศเม็กซิโก ชิเชน อิตซา คาบสมุทรยูคาทาน เม็กซิโกชิเชน อิตซา เป็นภาษามายาแปลว่า ต้นทางแห่งความสุขสบายของประชาชน ชิเชน อิตซาเป็นวิหารที่โด่งดังที่สุดของชนเผ่ามายา ถือเป็นศูนย์กลางด้านการเมืองและเศรษฐกิจของอารยธรรมมายา การผสมผสานทางโครงสร้างของสิ่งก่อสร้างหลากหลายชนิด ของชิเชน อิตซาทั้งพีระมิดแห่งเทพเจ้าคูคุลคาน (เทพเจ้าสูงสุดของชาวมายาซึ่งเป็นผู้สร้างมนุษย์) วิหารชัค มุล (รูปปั้นซึ่งเป็นศิลปะแบบมายา) ห้องโถงที่เต็มไปด้วยเสาหลายพันต้นและลานกว้างที่ใช้เป็นที่ชุมนุมของประชาชนในอดีตนั้น แสดงให้เห็นถึงความพิเศษในเชิงสถาปัตยกรรมด้านการจัดวางองค์ประกอบของเนื้อที่และพื้นที่ใช้สอย โดยเฉพาะในส่วนของพีระมิดแห่งเทพเจ้าคูคุลคานซึ่งถือเป็นพีระมิดแห่งสุดท้าย และเป็นพีระมิดที่กล่าวได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุดของอารยธรรมมายาด้วย2.ไครสต์ เดอะ รีดีมเมอร์ ที่กรุงริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล รูปปั้นของพระเยซูที่โปรดให้พ้นบาป ยืนสูง 30 เมตร (98 ฟุต) และกำลังมองข้ามเมือง Rio de Janeiro หนึ่งในรูปปั้นสูงที่สุดในโลก รูปปั้นพระเยซูเยืนยื่นแขนออกมาต้อนรับ และเป็นหนึ่งของสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงมากของเมืองนี้ พัฒนาโดยวิศวกร Heitor da Silva Costa และองค์กร สร้างขึ้นในปี 1921 โครงการทำเกือบ 5 ปีจึงเสร็จสิ้นรูปปั้นอยู่บนภูเขา Corcovado (ภูเขา Hunchback) และตั้งในอุทยานแห่งชาติ Tijuca เป็นสถานที่ปิคนิกที่รื่นเริง นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปฐานของรูปปั้น ซึ่งสูง 709 m (2326 ฟุต) สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของภูเขา Sugar Loaf กลางเมือง Rio de Janeiro และชายหาดของ Rio de Janeiro นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถไฟไปบนยอดของภูเขาเพื่อมองรูปปั้นอย่างใกล้ชิด และวิวที่สวยงามมากมาย3.กำแพงเมืองจีน กำแพงเมืองจีน ประเทศจีนกำแพงเมืองจีน (Great Wall of China) เป็นกำแพงกั้นเมือง และกั้นประเทศตามพรมแดนด้านเหนือของจีน เป็นกำแพงที่ยาวใหญ่มหึมา มีขนาดกว้างตั้งแต่ 4.5 เมตร ถึง 7.5 เมตร (10 ฟุต) มีความสูงจากพื้นด้านล่างตั้งแต่ 8 เมตร ถึง 9 เมตร (20-30 ฟุต หนา15-25 ฟุต)ได้รับขนานนามว่า กำแพงหมื่นลี้ เพราะมีความยาวถึง 14,600 ลี้ (ราว 6,700 กิโลเมตร) บนกำแพงทุกๆ ระยะ 200 เมตร (300 ฟุต) จะมีหอหรือป้อมสำหรับตรวจเหตุการณ์ มีป้อมมากกว่า 15,000 แห่ง สร้างสูงขึ้นไปอีก 3 เมตรถึง 6 เมตร และมีระฆังแขวนเพื่อตีบอกสัญญาณเกิดเหตุไว้ประจำทุกหอ รวมทั้งหมดมีไม่ต่ำกว่า 20,000 หอเริ่มสร้างระหว่างปี 243-252 ปีก่อนคริสตกาล ในสมัยพระเจ้าซี่วังตี่ (จิ๋นซีฮ่องเต้) มีการสร้างต่อเติมอีกหลายครั้ง ใช้แรงงานเกณฑ์จากราษฎรทั้งประเทศนับจำนวนล้าน มีผู้เสียชีวิตเรือนหมื่น อีกทั้งยังเป็นสิ่งก่อสร้างชนิดเดียวในโลกที่สามารถมองเห็นได้จากดวงจันทร์ 4.มาจู พิคจู ประเทศเปรูมาชู ปิกชู ประเทศเปรูมาชู ปิกชู แห่งอาณาจักรอินคา (Inca city, Machu Picchu) ตั้งอยู่ที่เมืองคุสโซ ประเทศเปรู มาชู ปิกชู อยู่บนยอดสูงมีบริเวณรอบๆ รวมแล้วความสูงของหน้าผาประมาณ 304.8 เมตร (1,000 ฟุต) ฮิแรม บิงแฮม นักสำรวจชาวอเมริกันพบใน ค.ศ.1911บริเวณนั้นเป็นป่าใหญ่คลุมพื้นที่อยู่ นอกจากสิ่งก่อสร้าง ปรักหักพังบางส่วนที่โผล่อยู่ให้เห็นสิ่งก่อสร้างดังกล่าวบ่งบอกให้เห็นความสามารถยอดเยี่ยม เชิงสถาปัตยกรรมของชาวอินคาในอดีต เพราะมีทั้งโบสถ์วิหาร อ่างหินสำหรับเก็บน้ำ บันไดหินเป็นพันๆ ขั้น เพื่อเป็นทางทอดระเบียงลงไปในที่ต่างๆ แห่งนครภูเขานี้5.เมืองโบราณเปตรา จอร์แดน เปตรา ประเทศจอร์แดนนครเปตราในจอร์แดน เป็นเมืองที่เจาะสลักเข้าไปในหินเกือบทั้งหมด รอบบริเวณ ไม่ว่าจะเป็น วิหาร หลุมศพ บันได โรงละคร ซึ่งขุดสลัก มาแต่ยอดเขาลงมาเป็นหลืบลดหลั่นเป็นช่อชั้นงดงาม แสดงถึงฝีมือและ ศิลปะในการสลักหินได้อย่างยอดเยี่ยมสีของหินกลมกลืนกัน ตัวตึกสี เลือดนก สีกุหลาบและสีม่วงเป็นลำดับ ถือกันว่าเป็นศูนย์กลางของอารยธรรม เบื้องต้นของเขตตะวันออกกลางที่เรียกว่านาบาทีนส์ คนแถบนี้เป็นพวกเร่รอน อาชีพเลี้ยงแกะอยู่ไม่เป็นที่ เป็นพวกชอบทำธุรกิจค้าขายเครื่องเทศจากตะวันออก ไปยังเขตเมดิเตอร์เรเนียนจากนั้นก็ขนส่งลงเรือไปสู่ยุโรป ในช่วงเวลาที่มีการ ค้าขายอย่างกว้างขวางกับอาณาจักรต่างๆ สืบมาจนถึงปัจจุบันได้ใช้เส้นทาง ในเขตซีเรียสู่ซาอุดีอารเบียโดยอาศัยกองคาราวานขนส่ง ได้สร้างความร่ำรวย และอำนาจราชศักดิ์ จนได้กลายมาเป็นนครเปตราขึ้นจากพวกอีโดไมท์ ซึ่งถือ เป็นเมืองหลวงในราว 300 ปี ก่อนคริสต์กาลสิ่งก่อสร้างสำคัญชิ้นหนึ่งในนครเปตราคือมหาวิหารกวาซร์ ฟีราโอน ซึ่งสร้างสมัยพระเจ้าอาเรตัสที่4 มหาราชของชาวนาบาทีนส์ ซึ่งครองราชย์ระหว่าง 9 ปีก่อน ค.ศ. จนถึง ค.ศ. 40 การบูรณปฏิสังขรณ์นครเปตรากำลังดำเนินอยู่อย่างมาก ในปัจจุบัน นครแห่งนี้ถูกค้นพบในรูปปรักหักพังมาตั้งแต่ ค.ศ. 1812 นับเป็นนครที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้ไปชมปีละมากมาย ความนิยมดังกล่าวช่วยยกฐานะให้นครเปตรากลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ สิ่งหนึ่งในโลกผลที่ออกมาคงเป็นที่ถูกใจของใครหลายๆ คน ทั้งนี้ทางทางองค์กร New 7 Wonders ยังได้เตรียมเปิดโครงการใหม่คือการค้นหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติยุคใหม่ (NEW 7 WONDERS OF NATURE) โดยจะเปิดให้มีการเสนอชื่อสถานที่เข้าชิงไปจนถึง 08.08.08. อีกด้วย6.โคลอสเซียม กรุงโรมสนามกีฬาโคลอสเซียม ประเทศอิตาลีตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นสนามกีฬากลางแจ้ง สิ่งก่อสร้างที่แสดงถึงความรุ่งโรจน์ของอาณาจักรโรมันโบราณ สร้างขึ้นในระหว่าง ค.ศ.ที่ 72-80 ตัวสนามสร้างมีรูปเป็นตึกวงกลมก่อด้วยอิฐและหินขนาดใหญ่ วัดโดยรอบยาว 527 เมตร สูง 57 เมตร มี 4 ชั้นภายในมีอัฒจันทร์สำหรับคนนั่งดู จุคนดูประมาณ 80,000 คน ใต้อัฒจันทร์และใต้ดินมีห้องสำหรับขังนักโทษที่รอการประหารชีวิต และสิงโต หลายร้อยห้อง ใช้เป็นสถานที่ให้นักโทษ ต่อสู้กับสิงโตที่อดอาหาร หากนักโทษผู้ใดเอาชนะ ฆ่าสิงโตได้ด้วยมือเปล่าได้ก็รอดชีวิตไปหรือไว้ใช้เป็นที่ประลองฝีมือในเชิงฟันดาบของบรรดาเหล่าทาสให้ต่อสู้กันเอง ยิ่งถ้าต่อสู้กัน จนถึงสามารถฆ่าคู่ต่อสู้ตายก็จะได้รับเกียรติอย่างสูงเพราะเป็นการต่อสู้ที่ชาวโรมันนิยมและยกย่องกันมาก ปีๆ หนึ่งต้องสูญเสียชีวิตนักโทษและทาสไม่ต่ำกว่าร้อยคน7.ทัชมาฮาล แห่งอินเดีย ทัชมาฮาล ประเทศอินเดียทัชมาฮัล เป็นอนุสาวรีย์แห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ของโลก เพราะที่นี่เป็นสุสานฝังศพของ มุมทัชมาฮัล ราชินีผู้ป็นที่รักยิ่งของพระเจ้าชาห์เยฮัน อยู่ในเมืองอัคระ บนฝั่งแม่น้ำยมนา ประเทศอินเดีย มุมทัชมาฮาล เป็นมเหสีที่พระเจ้าชาห์เยฮันรักมากที่สุด พระนางสิ้นพระชนม์เพราะคลอดโอรสองค์ที่ 15 ซึ่งทำให้พระเจ้าชาห์เยฮันเศร้าโศกมาก พระองค์จึงสร้างที่ฝังศพที่ใหญ่โตที่สุดในโลกขึ้นที่ริมแม่น้ำยมนาสร้างระหว่าง ค.ศ.1630-1648 สร้างด้วยหินอ่อนสีขาวนวลบริสุทธิ์ ตามแบบสถาปัตยกรรมเปอร์เซีย โดยสถาปนิก อุสตาด ไอสา (Ustad lsa) มีผู้ร่วมสร้างเป็นผู้ออกแบบ ช่างเขียนลวดลาย ช่างอิฐ ช่างปูน ช่างประดับลวดลายด้วยกระเบื้อง ช่างแกะสลัก ช่างตกแต่งภายใน รวม 20,000 คน วัตถุในการก่อสร้าง คือ หินอ่อนสีขาวจากเมืองมะครานา หินอ่อนสีแดงจากเมืองฟาตีบุระ หินอ่อนสีเหลืองจากฝั่งแม่น้ำนรภัทฑ์ เพชรตาแมวจากกรุงแบกแดด ปะการัง และ หอยมุกจากมหาสมุทรอินเดีย หินเจียระไนสีฟ้าจากเกาะลังขะ เพชรจากเมืองบนทลขัณฑ์ สิ้นเงินค่าก่อสร้าง 50,000,000 เหรียญอเมริกัน หรือประมาณ 1,000,000,000 บาทได้รับคำรับรองจากสถาปนิกทั่วโลกว่าสร้างขึ้นโดยถูกสัดส่วน และวิจิตรงดงามที่สุด กว้างยาวด้านละ 39 เมตร (130 ฟุต) ตรงกลางมีโดมสูง 60 เมตร (200 ฟุต) มีโดมเล็กๆ เป็นหสูงอยู่ทั้ง 4 มุม ภายในประดับด้วย หินอ่อนสลักฉลุเป็นลวดลายวิจิตรตระการตาแทรกเสริมด้วย พลอยสี ทับทิม และนิล ตรงกลางภายใต้หลังคาโดมใหญ่มีแท่นวางหีบศพที่ทำด้วยหินอ่อน และมีฉากหินอ่อนฉลุลายงามเป็นพิเศษกั้นอีกชั้นหนึ่ง แต่ศพจริงๆ ไม่ได้บรรจุอยู่ในหีบหากฝังอยู่ในอุโมงค์ใต้ดินตรงกับที่วางหีบศพนั้น ภายหลังที่สร้างทัชมาฮัล ซาร์เจฮันใฝ่ฝันที่จะสร้าง ที่ฝังศพตัวเองที่ฝั่งแม่น้ำตรงกันข้ามจะเป็นหินอ่อนสีดำล้วนๆ แต่เมื่อโอรสขึ้นครองราชย์สมบัติจึงจับพระองค์ขังอยู่ได้ 7 ปี ก็สิ้นพระชนม์ ประมาณ พ.ศ.2209 (ค.ศ.1666) แล้วเอาศพไปฝังข้างศพมเหสีผู้เป็นที่รัก ส่วนนายช่างผู้ออกแบบถูกสั่งให้ประหาร เพื่อป้องกันไม่ให้มีโอกาสออกแบบสิ่งก่อสร้างใดๆ ที่สวยกว่า
สำหรับวัตถุประสงค์ของการคัดเลือก สิ่งมหัศจรรย์ 7 อย่าง ครั้งนี้ เพื่อให้ชาวโลกตระหนักถึงความจำเป็นในการอนุรักษ์สถานที่สำคัญต่าง ๆ ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งนี้ สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ทั้ง 7 มีทั้งอยู่นอกยุโรป และตะวันออกกลาง ขณะที่ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกดั่งเดิมที่เกิดขึ้นกว่า 2 พันปีที่ผ่านมา ล้วนตั้งอยู่ในแถบเมดิเตอร์เรเนียน และมีเพียงพีระมิดแห่งกิซา อียิปต์ เท่านั้นที่ยังได้รับการจัดอันดับว่า เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ที่มา: http://www.rssthai.com/reader.php?t=travel&r=8887สิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 7 ของโลกคืออะไร อยู่ที่ประเทศใด
ตอบ -สิ่งมหัศจรรย์ในยุคปัจจุบัน ได้แก่
1.ปราสาทหินนครวัด ประเทศกัมพูชา สร้างโดยพระราชาธิราชพ.ศ.1690 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 นครวัดเป็นสถาปัตยกรรมสร้างด้วยหินศิลาแลงและมีช่างแกะหินเป็นภาพพุทธประวัติบ้าง ภาพสงครามบ้าง
2.ทัชมาฮาล ในประเทศอินเดีย เป็นอนุสาวรีย์แห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ซึ่งพระเจ้าซาห์เยฮัน แห่งเมืองอัคระ สร้างเป็นสุสานฝังศพของมเหสีที่พระองค์รักมากที่สุด ทัชมาฮาลสร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 23 ปี
3.พระราชวังแวร์ซายส์ ประเทศฝรั่งเศส สร้างโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 สร้างนานถึง 30 ปี ห้องทุกห้องตกแต่งประดับประดาหรูหราโอ่อ่ามาก แต่ประหลาดมากคือไม่มีห้องน้ำ
4.ตึกเอ็มไพร์สเตต เกาะแมนฮัตตัน สหรัฐอเมริกา เคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดีไม่มีสนิม คงทนถาวรนาน 6,000 ปีไม่มีถล่ม
5.เขื่อนยักษ์ฮูเวอร์ เขื่อนกั้นแม่น้ำโคโลราโด อยู่ระหว่างรัฐเนวาดากับอริโซน่า สหรัฐอเมริกา สร้างเมื่อปีพ.ศ.2472 เป็นเขื่อนแรกที่มนุษย์สร้างและเอาชนะธรรมชาติอันร้ายแรงของน้ำท่วมและกักเก็บน้ำให้เป็นทะเลสาบได้
6.สะพานโกลเดนเกต ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา เป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก เฉพาะช่วงตอนกลางยาวถึง 4,200 ฟุต กว้าง 90 ฟุต ความยาวทั้งหมดของสะพานเกือบ 7 กิโลเมตร สร้างเมื่อปี 2476 เสร็จปี 2480 เวลากลางคืนเปิดไฟที่สะพานจะสวยมาก
7.เรือโดยสารควีนแมร์รี่ เป็นเรือเดินสมุทรขนาดมหึมาใหญ่โตที่สุดในโลกเท่าที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อรับผู้โดยสารข้ามมหาสมุทร เรือมีน้ำหนัก 80,773 ตัน ยาว 1,004 ฟุต สูง 180 ฟุต ภายในเรือมีสิ่งอำนวยความสะดวก ร้านค้า โรงพยาบาล ฯลฯ แต่ตอนนี้เรือไม่ได้แล่นรับผู้โดยสารแล้ว เพราะมีเศรษฐีอเมริกันซื้อไปสร้างเป็นโรงแรมและพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำที่ลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย
สำหรับสิ่งมหัศจรรย์ทั้งเจ็ด สมัยกลาง (ศตวรรษที่ 1-14) ได้แก่ 1.สนามกีฬากรุงโรม อิตาลี 2.หลุมฝังศพแห่งอเล็กซานเดรีย อียิปต์ 3.กำแพงเมืองจีน 4.กองหินสโตนเฮนช์ อังกฤษ 5.หอเอนปิซ่า อิตาลี 6.เจดีย์กระเบื้องเคลือบนากิง จีน และ 7.โบสถ์เซนต์โซเฟีย ตุรกี
นอกจากนี้ยังมีสิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 7 ในยุคโบราณด้วย ได้แก่ 1.เทวรูปเทพเจ้าเซอุส 2.มหาวิหารเดียนา 3.สวนลอยบาบิโลน 4.หอประภาคารฟาโรส 5.เทวรูปโคโลสซูส 6.สุสานมุสโซเลียม 7.พีระมิดแห่งอียิปต์ ที่มา: http://www.matichon.co.th/youth/youth.php?tagsub=031112&tag950=03you20120439&show=1
7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ของโลกใกล้ได้เห็นแล้ววันที่ 7 เดือน 7 ปี 2007 หรือ 07.07.07 คือวันประกาศผลการลงคะแนนคัด 7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ของโลก โดยงานจัดที่เบนฟิกาสเตเดี้ยม ในกรุงลิสบอน,โปรตุเกสพวกเราต่างคุ้นกับ 7 สิ่งมหัศจรรย์หรือ 7 Wonders ด้วยมีสถานที่สำคัญๆหลายแห่งอ้างอิงว่าเป็น 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ โดยความจริงแล้วไม่มีการรับรองเป็นทางการไม่ว่าทัชมาฮาล,นครวัดฯลฯ ที่ยอมรับในความมหัศจรรย์ล้วนเป็นสิ่งก่อสร้างอายุกว่า 2 พันปีและเหลือเพียงมหาพีระมิดแห่งกิซา,อียิปต์เท่านั้นที่เหลืออยู่ นอกนั้นชำรุดทรุดโทรมไม่เหลือแม้ซากทราบว่ามหาพีระมิดกีซาได้รับยกย่องให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ระดับกิตติมศักดิ์ คณะกรรมการผู้จัดให้มีการโหวดตกลงคัดออกจากบัญชีโหวด เพื่อให้เกียรติของเก่าการจัด 7 สิ่งมหัศจรรย์ที่จะประกาศผลในวันที่ 7 เดือนหน้าเป็นของเก่าและใหม่ที่ปัจจุบันมีอยู่จริง และอยู่ในสภาพที่ดีกระจกแมงเม่าเคยนำ 21 ว่าที่สิ่งมหัศจรรย์ที่ผ่านเข้ารอบมาเล่าสู่กันฟังแล้ว ถึงวันนี้มีผู้โหวดเข้ามามากกว่า 60 ล้านเสียง ที่อยู่แถวหน้าได้แก่ Acropolis แห่งเอเธนส์,กรีซ พีระมิด Chichen Itza แห่งเม็กซิโก สนามกีฬา Colosseum แห่งโรม,อิตาลี อนุสาวรีย์หิน Easter Island Moais แห่งชิลี หอสูง Eiffel กรุงปารีส,ฝรั่งเศส กำแพงเมืองจีนที่ปักกิ่ง เมืองเก่า Machu Picchu ของชาวอินคาในเปรู นคร Petra ในจอร์แดน กองหิน Stonehenge ในอังกฤษ และอนุสาวรีย์แห่งความรัก Taj Mahal ในอินเดียพวกเราอาจข้องใจแล้วนครวัดของกัมพูชาเพื่อนบ้านเราล่ะ?ไม่น่าแปลกใจเพราะสถานที่ตัวเก็งล้วนอยู่ในประเทศที่มีศักยภาพ แปลว่าศักยภาพในการสร้างคะแนนโหวดเพื่อให้สมบัติแห่งชาติขึ้นชั้นไปสู่สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ประเทศเล็กๆอย่างกัมพูชาที่ประชาชนอ่อนด้อยความรู้เทคโนโลยีสื่อสารจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปโหวดทางอินเทอร์เน็ตสู้ โอกาสของนครวัดก็คงรอชาวโลกผู้เห็นคุณค่าช่วยกันโหวดให้ คะแนนที่ไล่หลังอยู่มีโอกาสแซงติด 1 ใน 7 ได้พูดอย่างนี้ก็ใช่ว่าลำเอียงเข้าข้างเพื่อนบ้าน ความจริงคือการโหวดหาสิ่งมหัศจรรย์ใหม่ถูกผลักดันทั้งด้านการเมืองและธุรกิจอย่างแรงผู้นำในบางประเทศล็อบบี้ประชาชนของตนอย่างเต็มที่ให้ส่งคะแนนโหวด ในจีนเองทั้งระดับโรงเรียน,มหาวิทยาลัยรณรงค์ดันกำแพงเมืองจีนแบบเต็มสูตร จอร์แดนก็เช่นกันพระราชวงศ์ลงมาชักจูงใจเอง เม็กซิโกก็สู้ไม่ถอย ตามกระป๋องโค้กโฆษณาให้ชาวเม็กซิกันร่วมโหวดให้ Chichen Itza เป็นที่เข้าใจได้หากขึ้นแป้น 7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ ตัวนักการเมืองได้หน้าได้คะแนนเสียง ธุรกิจท่องเที่ยวก็สดใสซาบซ่า จนมีผู้กลัวว่าถ้าเว่อร์ก็อาจเป็นดาบคมที่ 2 ทิ่มแทงสิ่งมหัศจรรรย์เสียหายงานนี้ใกล้ตัวเราที่สุดก็ลุ้นนครวัดนี่แหละ ไม่ว่าอะไรก็ตามยินดีล่วงหน้ากับ 7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ ด้วยเชื่อว่าจะชนะบนคะแนนโหวดของผู้ที่อยู่ในประเทศเป็นกลางมีจิตใจเป็นกลาง เพื่อรับเกียรติยศนั้นด้วยการยอมรับของชาวโลก.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น